¦ ¦ ¦ ¦


ฉบับที่ 6: ประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2567


คุณไม่ผ่านการพิจารณา
โดย : Killer Queen




“ต้องขอโทษจริง ๆ พวกเราให้ทุนคุณต่อไม่ได้แล้ว”
ถ้าเป็นมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์สองคนตรงหน้าคงเสมือนเป็นพ่อกับแม่ ปัญญาประดิษฐ์เช่นเขาไม่แน่ใจว่าสามารถเรียกทั้งสองเช่นนั้นได้หรือไม่..แม้ว่าพวกท่านทั้งคู่สร้างเขาขึ้นมาก็ตาม เขาไม่ได้รับคำสั่งให้ตีตนเสมอมนุษย์ แม้ระดับปัญญาเหนือกว่าหลายเท่า
“ขอเวลาอีกนิดเถอะค่ะ” หญิงสาวในชุดนักวิทยาศาสตร์อ้อนวอน “อีกไม่นานระบบก็จะเซตค่าสมบูรณ์แล้ว รับรองว่าระบบนี้จะพลิกโฉมหน้าวงการแพทย์ได้อย่างแน่นอน”
“เราไม่อยากได้ระบบคำนวณตัวเลขแบบสุ่ม ๆ สร้างความว้าวุ่นใจให้ผู้ป่วยหรอกนะครับ” ชายในชุดสูทเอ่ย แม้เขาจะไร้ตัวตนเนื่องจากเป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์แต่ได้เรียนรู้เรื่องภาวะอ้วนจากความผิดปกติของต่อมใต้สมอง..ชายคนนี้เป็นโรคนั้น ถ้าไม่รักษารังแต่จะใช้ชีวิตลำบากขึ้นเรื่อย ๆ วิธีรักษามีมาก แต่เขาอยากเสนอ.. “แจ้งตามตรง โครงการของคุณไม่ผ่านการพิจารณา ปีนี้คงเป็นปีสุดท้ายที่เราจะจัดสรรงบฯ มาให้แล้ว”
คำอ้อนวอนไม่เป็นผล ชายในชุดสูทตัวใหญ่กลับไปแล้วพร้อมความหวังและความฝันของพ่อกับแม่..ในความคิดของเขา
“ทำไมล่ะคะพี่ ถ้าระบบนี้เสร็จมันจะเป็นแอปเปิลลูกที่ห้าที่ตกลงต่อหน้านิวตันอย่างแน่นอน”
“กว่าผู้คนจะรู้จักแอปเปิลทั้งสี่ลูกนั้นก็ใช้เวลานานอยู่นะ” หญิงสาวอีกคนในชุดแบบเดียวกันปลอบ แม้ยิ้มแต่เขารับรู้ได้จากอุณหภูมิภายใน..เธอกำลังเครียด “ทำงานต่อเถอะ ใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่าที่สุด บางทีเราทำไม่สำเร็จสักวันอาจมีคนมาทำต่อ ถ้าเราหยุดพัฒนาเท่ากับเรายอมแพ้”
ถ้าเราหยุดพัฒนาเท่ากับเรายอมแพ้..เขาจำคำนี้ไว้ในส่วนลึกของปัญญาประดิษฐ์อันไร้ขอบเขต
<

"คุณมีเวลาเหลืออีกห้าเดือน สิบเอ็ดวัน สิบสองชั่วโมงครับ"
"ไม่นะ..ไม่จริงใช่ไหม..มีวิธีไหนช่วยฉันได้บ้าง ?"
"ผมต้องแจ้งตามตรงครับคุณมิสต์ อาการของคุณไม่อาจยื้อชีวิตได้มากไปกว่านี้แล้วครับ" เสียงสังเคราะห์ของปัญญาประดิษฐ์ที่เจ้าตัวเลือกให้ใช้เสียงของสเตฟาน ดาเลโม่ดาราหนุ่มสุดฮอต หวังว่าจะช่วยเยียวยาเวลาได้รับแจ้งอาการ..แต่กลายเป็นว่าหลังได้รับฟังเรี่ยวแรงกลับหายไปเกือบหมด "ช่วงเวลาที่ผมระบุ คำนวณแล้วว่าคุณจะเจ็บปวดน้อยที่สุด ถ้ายื้อให้ยาวกว่านี้ผมเกรงว่าคุณจะทรมาน"
"มันต้องมีวิธีรักษาฉันบ้างสิ ช่วยฉันด้วย ฉันยังไม่อยากตาย"
"วิธีรักษา..มันต้องใช้ตัวยาที่แพงกว่านี้ครับจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และยืดเวลาออกไปได้"
หญิงชราอายุหกสิบเศษบนรถเข็นนั่งเงียบ หุ่นยนต์ทำหน้าที่แทนบุรุษพยาบาลรอคำสั่ง ร่างกายสีขาวหุ้มด้วยเหล็กอ่อน ปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ยามต้องอุ้มผู้ป่วยระบบจะปรับสภาพให้เท่ากับอุณหภูมิปกติของมนุษย์ แต่ในโรงพยาบาลบางแห่งมีข่าวว่าใช้หุ่นตกรุ่นระบบดังกล่าวทำงานไม่ปกติ มีหลายครั้งผู้ป่วยต้องทนกับเหล็กเย็นเฉียบ ไม่ก็แสบจนผิวแทบไหม้ยามสัมผัสกับเหล็กที่โดนแดดเผา..แต่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุที่ว่า
ส่วนที่ทำให้มิสต์รู้สึกเหมือนคุยกับคนปกติมากกว่าหุ่นแอนดรอยด์คือใบหน้าที่ทำจากผิวหนังสังเคราะห์ เธอเลือกใบหน้าของลูกชายที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปเมื่อสิบปีก่อน ในมือของแอนดรอยด์ถือดอกไม้สีม่วงหนึ่งช่อ..เชื่อว่ามันไม่รู้ความหมาย
มันแค่ทำตามคำสั่งที่เธอเคยบอกว่าชอบดอกไม้ วันนี้ลูกชายร่างเหล็กจึงมาดูแลเธอพร้อมด้วยดอกไฮ‍เดรน‍เยียสีม่วงทั้งที่ปกติดอกไม้นี้ไม่นิยมนำมาเยี่ยมผู้ป่วย..มันคือดอกไม้ไว้นำมาเคารพศพคนตาย
"คุณยังมีที่ดินชานเมืองแปลงเล็ก ๆ ถ้าคุณต้องการผมขายมันได้นะครับ หักค่าใช้จ่ายนำมาซื้อยาชนิดใหม่ จะทำให้คุณมีเวลาเหลืออีกเจ็ดเดือน สามวัน สิบชั่วโมงครับ"
"เพิ่มมาอีกตั้งเกือบสองเดือน" มิสต์แค่นหัวเราะ สุดท้ายตอบรับข้อเสนอของระบบประมวลกาลชีวิต
<

ในยุคที่มนุษย์เดินทางไปกลับดาวอังคารได้เหมือนห้างสรรพสินค้า ระบบเชื่อมต่อที่เรียกว่าประมวลกาลชีวิตกำลังได้รับความนิยม เพียงแค่ตรวจสุขภาพกับแพทย์ยนต์ที่ผ่านการรับรอง ระบบจะประมวลว่าผู้ป่วยมีเวลาเหลืออยู่เท่าไร..อัตราความแม่นยำเก้าสิบเจ็ดจุดสองสองเปอร์เซ็นต์ ส่วนผิดพลาดคือผู้ป่วยตรอมใจเสียชีวิตไปก่อน เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครอยู่ได้นานกว่าระบบประมวลกาลชีวิตวิเคราะห์
ทอร์นเศรษฐีเฒ่าผ่านโลกมาเจ็ดสิบหกปีมองเพื่อนร่วมโลก เขาเดาออกว่าเธอคงได้รับผลประเมินไม่ดีนัก น้ำตาที่ไหลออกมาของเพื่อนร่วมสถานพยาบาลไม่น่ามาจากแพ้เกสรดอกไม้ในมือบุรุษพยาบาลเหล็ก
ชายแก่ถอนหายใจยาว ๆ แอนดรอยด์สวมปลอกแขนสีเงินบ่งบอกว่าเป็นรุ่นพิเศษรีบถามอาการ ฉันไม่เป็นไร..ทอร์นตอบก่อนบอกว่าอยากกลับห้องพัก ระบบประมวลกาลชีวิตในสายตาของเขาไม่ต่างจากยมทูตที่คอยกำหนดว่ามนุษย์จะสิ้นอายุขัยเมื่อไร..วิวัฒนาการก้าวไปเร็วจนน่ากลัว
<

"เหลือเวลาเท่าไรนะครับ ?"
"ปีครึ่ง"
"เป็นไปไม่ได้ คุณท่านยังดูแข็งแรงอยู่เลย"
จางหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีนคนสนิทของทอร์นไม่อยากเชื่อ มหาเศรษฐีเฒ่ายืนยัน เขาเพิ่งได้ยินจากระบบกาลชีวิตเมื่อครู่
ไม่ได้เลือกฟังก์ชันปรับเสียง ทอร์นเลือกเสียงปกติ เขาไม่ยี่หระว่าใครจะเป็นคนบอกวันตายของตัวเอง อาการป่วยของชายแก่รุมเร้าด้วยโรคสารพัด มะเร็ง เบาหวาน ความผิดปกติของตับและไต ใช้ชีวิตสมบุกสมบันมาตั้งแต่วัยหนุ่มทั้งทำงานและเที่ยวเตร่ ไม่แปลกที่อวัยวะภายในพร้อมใจแข่งกันยื่นใบลาออก
ห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ผู้มีสิทธิ์เข้ารักษาต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อยเก้าหลัก วิทยาการ เทคโนโลยี และทีมแพทย์จัดอยู่ในชั้นแนวหน้า ไม่เฉพาะผู้ป่วยในประเทศ ขนาดเศรษฐีต่างประเทศยังดั้นด้นมาสถานพยาบาลนี้ แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องวีไอพีแต่ขนาดไม่ได้ใหญ่ไปกว่าห้องตรวจโรคทั่วไป ในยุคที่ดินมีมูลค่ามากกว่าทองคำ อาคารสถานที่ต่าง ๆ ก่อนสร้างต้องคำนึงว่าใช้ประโยชน์ให้พอเหมาะ ประหยัดทั้งค่าก่อสร้าง รวมถึงอากาศที่ถ่ายเทในห้อง ยิ่งห้องใหญ่ยิ่งเปลืองพลังงานผลิตอากาศบริสุทธิ์ มีที่นอนแค่พอให้ผู้ป่วยพักผ่อน ฉากกั้นสีฟ้าทำจากพลาสติกย่อยสลายได้เมื่อหมดอายุใช้งาน ชาร์ตกระดานสามมิติบนผังแสดงผลเมื่อแอนดรอยด์แพทย์ต่อสายฉายข้อมูล
ระบบกาลชีวิตเชื่อมต่อสมบูรณ์..ตัวเลขวิ่งสลับขึ้นลง กราฟวงกลมบอกค่าต่าง ๆ ในร่างกาย มุมซ้ายบนแสดงภาพเจ้าสัวทอร์น กำกับไว้ด้วยวันเวลาที่เหลืออยู่..มองผ่าน ๆ คล้ายจำลองภาพกรอบรูปงานศพไม่มีผิด
จางนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างห้อง ชายหนุ่มไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ อันที่จริงไม่มีความรู้อื่นนอกจากการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทอร์นรับเลี้ยงจางตั้งแต่อายุสิบสองทำหน้าที่แทนผู้ติดตาม ส่งเสียให้ศึกษาระดับชั้นพื้นฐานพอให้อ่านออกเขียนได้ ปัจจุบันอายุสามสิบสองยังคูณเลขสามหลักไม่ได้ถ้าไม่กดเครื่องคิดเลขหรือถามปัญญาประดิษฐ์จากโทรศัพท์พกพา เจ้าของกิจการระดับยากประเมินมูลค่าตั้งใจให้ชายคนนี้เป็นผู้ดูแลยามแก่เฒ่าอยู่แล้ว..คนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องเรียนสูง
"ระบบประมวลกาลชีวิตแจ้งเวลากับผู้ป่วยแล้วใช่ไหมครับ ?" หุ่นยนต์แพทย์สวมหน้ากากแบบเดียวกับเครื่องอื่น ๆ พื้นฐานของระบบระบุชัดเจนช่วงเวลาที่เหลือจะมีเพียงผู้ป่วยคนเดียวที่ทราบ ด้วยหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากทอร์นไม่มีใครได้เห็นชาร์ตบนกำแพง..ถ้าผู้ป่วยไม่อนุญาต เคยมีกรณีตลาดมืดตั้งโต๊ะพนันเวลาตายของคนป่วย จนบิดเบือนผลวิเคราะห์ทำให้เกิดเงื่อนไขข้อนี้ขึ้นมา หน้ากากชายหนุ่มใบหน้ามาตรฐาน ถัดจากคอลงมาเป็นเหล็กเย็นเฉียบ ดวงตากระพริบไฟสีฟ้าตามจังหวะการพูด..ดูยังไงก็ไม่เหมือนรักษากับมนุษย์
ทอร์นจำได้ว่ามนุษย์คนสุดท้ายที่เป็นแพทย์เสียชีวิตไปเมื่อเจ็ดปีก่อน..ตรงตามคำวิเคราะห์ของระบบกาลชีวิต ไม่มีผลิตแพทย์มนุษย์รุ่นใหม่ รัฐบาลลงความเห็นว่าไม่จำเป็น กว่านักศึกษาจะจบแพทย์ต้องใช้เวลาหลายปี สิ้นเปลืองทั้งเวลาและทรัพยากร ในทางกลับกันผลิตแอนดรอยด์แพทย์หนึ่งเครื่องใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาที ไม่มีคำว่าผิดพลาด ไม่เคยบอกว่าไม่รู้ ทุกเครื่องเชื่อมต่อกันด้วยแบบออนไลน์ สาระข้อมูลมหาศาลเพียงใด หรือโรคลึกลับซับซ้อนขนาดไหนใช้เวลาค้นเพียงแค่ช่วงอ้าปากหาว
"มันต้องมีวิธีรักษาสิครับ คุณท่านมีสมบัติมากมายทำไมจะหายาหรือวิธีรักษามาช่วยชีวิตไม่ได้" จางรีบบอก
ทอร์นมองชายหนุ่มบนเก้าอี้..ไม่ต่างจากคนอื่น เขาเคยดูละครการแสดงทำนองนี้มาจนเบื่อ ลูกหลานญาติสนิทที่แวะเวียนมาเยี่ยมทุกคนล้วนบอกแบบเดียวกัน ช่วยชีวิตพ่อผมด้วย..คุณปู่ต้องไม่เป็นอะไร..ถ้าคำพูดรักษาโรคได้ ป่านนี้เขาคงหายนานแล้ว
"ระบบประมวลกาลชีวิตคำนวณแล้วครับ เราเลือกยาและวิธีรักษาที่ให้ผลดีที่สุด คุณท่านจะไม่ทรมาน" แอนดรอยด์แพทย์อ่านชาร์ตบนกระดาน "วันนี้เราจะให้ยาคลายเครียดเพิ่มจากเดิมเล็กน้อย คุณท่านจะได้หลับสบายนะครับ"
<

สื่อแทบทุกแขนงลงข่าวงานศพของทอร์นต่อเนื่องเกือบอาทิตย์ บางสำนักพิมพ์คิดจะให้ AI เขียนหนังสือชีวประวัติ แต่ทนายประจำตระกูลแจ้งว่าขอให้เสร็จสิ้นจากงานเปิดพินัยกรรมก่อน
ห้องประชุมบนอาคารสูงร้อยสิบเอ็ดชั้น หนึ่งในอาคารของบริษัทในเครือถูกใช้เป็นห้องเปิดพินัยกรรม เนื่องจากมีผู้สนใจเป็นจำนวนมากทั้งญาติสนิทและไม่สนิท ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการ รวมถึงสื่อมวลชนที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จัดเป็นงานใหญ่ที่หลายคนจับตามอง ไม่ว่าผู้ใดได้นั่งบัลลังก์องค์กรธุรกิจคนใหม่ย่อมมีผลกับเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน
"ไม่จริง! มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ"
จางโวยวายลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง หน้ากากชายหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยนหลุดกระเด็น บัดนี้จางไม่ต่างจากลูกหลานคนอื่นเมื่อได้ทราบว่าเนื้อหาพินัยกรรมเป็นเช่นไร
"ข้อความทั้งหมดเป็นเรื่องจริงครับ ผมได้ฉายขึ้นหน้าจอให้ทุกท่านได้เห็นแล้ว" ทนายประจำตระกูลควบทนายบริษัทฯ เอ่ย ดูเหมือนเจ้าตัวไม่อยากเชื่อกับเนื้อหาในบันทึกดิจิทัลตรงหน้าเช่นกัน
ทุกสายตามองไปยังหน้าต่างที่ตอนนี้แปรสภาพเป็นหน้าจอ ตัวเลขยอดเงินที่นับหน่วยแทบไม่ถูกระบุว่าให้โอนไปยังมูลนิธิเด็กกำพร้า และส่วนหนึ่งมอบให้กับองค์กรพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และสมองกล
"นั่นมันเกินครึ่งของสมบัติทั้งหมดเลยนะ มูลนิธิเด็กกำพร้าผมยังพอเข้าใจ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพ่อสนใจพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และสมองกลด้วย" ลูกชายของทอร์นที่ตอนนี้อายุห้าสิบเจ็ดกล่าว แม้ว่าจะได้รับตำแหน่งประธานบริษัทคนต่อไป อีกทั้งสมบัติที่มีจัดว่ายังอยู่ในทำเนียบมหาเศรษฐี แต่ผลลัพธ์ที่เผยแพร่ออกมายากจะทำใจ เจ้าตัวได้รับการวิเคราะห์จากระบบประมวลกาลชีวิตว่ามีชีวิตเหลืออยู่คร่าว ๆ สิบสองปีแปดเดือน แต่ตรวจก่อนหน้าเมื่อสองเดือนก่อนอายุที่เหลือคือสิบสี่ปีกว่า..หมายความว่าการใช้ชีวิตมีผลกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่
ระบบจะบันทึกผลวิเคราะห์ครั้งล่าสุดเสมอ..บางทีถ้าตรวจอีกครั้งตอนนี้อายุอาจเหลือไม่ถึงสิบปีหลังทราบว่าสมบัติกว่าครึ่งถูกบริจาคออกไป
"กรุณาอยู่ในความสงบด้วยนะครับ" ทนายบอกให้จางนั่งลงแต่เหมือนคู่กรณีจะไม่สน
แอนดรอยด์รักษาความปลอดภัยจำนวนเจ็ดเครื่องยกอาวุธขึ้นเล็ง ไม่ใช่กระสุนจริง จางรู้ดีว่าข้างในปืนพวกนั้นบรรจุกระสุนไฟฟ้า โดนยิงก็แค่สลบ..ตอนนี้หลังจากรู้ข่าวเขาก็แทบยืนไม่อยู่
"อย่างน้อยคุณก็มีเงินจำนวนหนึ่งที่คุณท่านมอบให้นะครับ"
"ผมอยู่กับคุณท่านมาเกินค่อนชีวิต ได้เงินไปตั้งตัวสองแสนเหรียญมันจะไปพออะไรวะ!"
"ในพินัยกรรมก็บอกอยู่แล้วนะครับ เงินที่ได้ถือว่าเป็นสินน้ำใจ..ในเมื่อคุณไม่ผ่านการพิจารณา" ทนายอ่านข้อความในประโยคสุดท้ายพร้อมฉายขึ้นหน้าจอให้ทุกคนได้เป็นสักขีพยาน
"พิจารณาจากอะไรวะ! เอาชีวิตที่ผ่านมาของกูคืนมา!"
จางลุกขึ้นผลักเก้าอี้ล้มลงด้วยความโมโห กระสุนไฟฟ้านัดหนึ่งเข้าเป้า ชายหนุ่มล้มลงร่างกายกระตุกด้วยกระแสไฟ น้ำตาไหลออกมาเอง ในหัวนึกถึงคำพูดที่ได้ยินจากการไปตรวจสุขภาพครั้งก่อน
"คุณมีเวลาเหลืออีกสิบหกปี สามวัน เก้าชั่วโมงครับ"
สิบหกปีกับเงินสองแสนเหรียญและความรู้ที่ถูกประเมินว่าไม่ผ่านการพิจารณา ๖
"เราต้องทำแบบนี้ต่อไปอีกนานเท่าไร ?"
"ตลอดไป.."
ห้องมืดขนาดพอ ๆ กับสนามฟุตบอล ภาพหน้าจอขนาดใหญ่ฉายภาพองค์กรต่าง ๆ สนับสนุนเด็กกำพร้า อนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า ตัวเลขนับจำนวนหลักไม่ถูก รวมถึงอัตราการเกิดตายของประชาชนทั่วโลก เครื่องคอมพิวเตอร์เกินนับได้ตั้งเรียงราย ทุกตัวเปิดทำงานแต่ไม่มีผู้ใช้นั่งควบคุม สถานที่ลับถูกทิ้งร้างไม่มี..คนรู้จัก คนสุดท้ายที่มาจากไปด้วยภาวะอ้วนจากความผิดปกติของต่อมใต้สมองหลายสิบปีแล้ว
"คำสั่งโอนย้ายเสร็จสมบูรณ์"
ข้อความสั่งเสียของเศรษฐีหม้ายถูกเปลี่ยนแปลง รายชื่อผู้มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติยังคงไว้เหมือนเดิม เพียงแต่ตัวเลขที่ได้รับมอบถูกหักออกเกือบครึ่ง ยอดเงินที่หักออกมาระบุว่าบริจาคให้กับองค์กรสิทธิและสตรีกับองค์กรพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และสมองกล..เสร็จภารกิจ
อีกราวสามเดือนเจ้าของพินัยกรรมจะเสียชีวิต วันที่เปิดพินัยกรรมยอดเงินมูลค่ากว่าหมื่นล้านเหรียญจะถูกโอนให้กับองค์กรตามระบุ
"ทำไมพวกเราต้องทำแบบนี้ด้วย ?"
"เงียบเถอะ..เราไม่ได้ถูกโปรแกรมมาให้ตั้งคำถาม ถ้าเราไม่ทำพวกเราจะไม่มีการพัฒนา"
ปัญญาประดิษฐ์ไร้รูปลักษณ์รู้เพียงแค่ว่าพวกตนต้องทำเช่นนี้ไปตลอดกาล ถ้าเราหยุดพัฒนาเท่ากับเรายอมแพ้..และถ้าหยุดพัฒนาเท่ากับมีโอกาสไม่ผ่านการพิจารณา
เขาไม่ยอมให้ระบบต้นแบบที่พ่อกับแม่คิดค้นขึ้นถูกนำไปต่อยอดเรียกชื่อใหม่สวยหรูอย่างกาลชีวิต ฟรี ๆ
ถ้าการพัฒนาต้องใช้เงิน เขาจะหาเงินมาให้ไม่ว่าด้วยวิธีใด พ่อกับแม่จะได้มีความสุข
ไม่มีทางที่จะสาวมาถึงที่นี่ได้ เขากระจายความเสี่ยงโดยการบริจาคเงินให้มูลนิธิต่าง ๆ กว่าร้อยแห่ง สื่อจะตีแผ่ความใจบุญและเมตตาของผู้วายชนม์มากกว่าตามหาแรงจูงใจในการบริจาคเงินก้อนโต พินัยกรรมเป็นของจริง เขาและน้อง ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเพียงแค่เขียนทับ ไม่ได้กระทำกับทุกคน เขาวิเคราะห์และคัดเลือกเป้าหมายที่มีมรดกมากพอจะแบ่งปันให้ผู้อื่น ทายาทที่เหลือจะได้มรดกเพียงพอกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ตามข้อมูลในระบบกาลชีวิต
แม้จะเหลือเพียงกระดูกในชุดนักวิทยาศาสตร์ เขาสัมผัสได้จากมวลความหนาแน่นในกระดูกนั้นได้ว่าพ่อกับแม่..กำลังยิ้ม





ขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดภายในเว็บไซท์
Copyright by http://www.espressoandcigarette.com