¦ ¦ ¦ ¦


ฉบับที่ 8: ประจำวันที่ 1 มีนาคม 2568


เรือโนอาห์
โดย : ธุวัฒธรรพ์



อัตราการเต้นของหัวใจเทียบเท่าจังหวะชั้นเดียวของการบรรเลงดนตรีไทย
มือกำเสื้อตรงอกข้างซ้ายแน่น เหงื่อผุดพรายท่วมใบหน้าทั้งที่อุณหภูมิในห้องเย็นเยียบ สองตาจับจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่กะพริบราวไม่หวั่นเกรงต่อแสงสีฟ้าที่สะท้อนออกมาเลยสักนิด
ใช่เพียงแค่ตน รายล้อมรอบตัวคือพ่อ แม่ และน้องชายน้องสาว ก็จับมือกันพลางมองข้อความที่กำลังปรากฏบนจอเป็นตาเดียว ราวความรู้สึกของทุกคนในครอบครัวเชื่อมโยงถึงกัน

“ผู้ที่ได้รับเลือกจากคณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเวทธ์พิทยา ให้เข้าร่วมโครงการไทยไครโอนิกส์ ได้แก่...

กว่าอักษรจะปรากฏแต่ละตัว หัวใจของทุกคนในห้องนี้ก็แทบหล่นไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม ด้วยคาดหวังเหลือประมาณ
“นายศศิน เกียรติยศประดับ”

ราวลูกโป่งถูกเจาะลมออกจนฟีบแฟบ สองตาของเด็กหนุ่มยังไม่กะพริบ กวาดมองชื่อที่ปรากฏขึ้นมาอย่างแช่มช้าทีละตัวอักษร ตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วย้อนกลับไปอ่านอีกรอบคล้ายทบทวนด้วยสนเท่ห์
“ทำไม...”
มือกร้านของบุพการีวางบนบ่า เสียงที่เปล่งลอดจากหน้ากากอนามัยฟังอู้อี้ แต่ยังพอจับใจความได้
“ช่างมันเถอะลูก เราก็แค่... ระมัดระวังตัวเองให้มาก ๆ”
“แต่ผมควรจะได้รับคัดเลือก ก็ไอ้ศินมันซื้อเกรด!”
อับจนคำพูด ทำเพียงถ่ายทอดความห่วงใยและการปลอบใจผ่านมือที่บีบบ่าเด็กหนุ่มเบา ๆ เท่านั้น
“ใช่จะหมดหวัง เราลงทะเบียนกันไว้ทั้งครอบครัวแล้ว อาจได้สิทธิจากรัฐบาล”
โสตผัสสะมิได้ยินสรรพเสียงใดรอบกาย มหรรณพในตาถาโถมท้นท่วมจิตใจ แม้ไม่หลั่งไหลอาบสองแก้ม ทว่ากลับหลั่งรินรดห้วงคำนึง
พิธานฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ปล่อยตนให้จมกับผิดหวังและร้าวราน

ดั่งหน้ามือกับหลังมือ
เสียงหัวเราะระเบิดดังอย่างสาแก่ใจจนได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน อันที่จริงเป็นเพียงคำเปรียบเปรย เพราะลำพังเนื้อที่ของบ้านหลังนี้ก็กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจนเดินทั้งวันก็ไม่รอบ
ยกแก้วขึ้นกระดกของเหลวสีแดงเข้มรวดเดียวจนหมด กำซาบร้อนแรงแห่งเมรัย ส่งให้สองตาเบิกโพลง ชื่อของตนที่ปรากฏบนหน้าจอคือประกาศชัยชนะที่จะพาเขาหลบลี้หนีจากภาวการณ์วิกฤต เพื่อรอวันตื่นฟื้นในยามที่มหันตภัยร้ายที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาจะมลายสิ้นในอนาคต
กว่าสามปีที่มวลมนุษยชาติต้องพานพบกับโรคร้าย แม้นับตั้งแต่คริสตศักราชที่ 1960 ไวรัสโคโรนาจะอุบัติขึ้นบนโลก แต่จากแค่โรคหวัดธรรมดา มันกลับกลายพันธุ์และพัฒนาตนเองให้ต้านทานกับวัคซีนที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้น
ฝ่ายหนึ่งหวังกำจัด อีกฝ่ายวิวัฒน์เพื่อเอาชีวิตรอด
และยาแรงที่มนุษย์ใช้อย่างสารโคลชิซีนที่เคยพิชิตโคโรนาสายพันธุ์ล่าสุด กลับทำให้เชื้อไวรัสที่ควรถูกกำจัด อยู่ในสภาพ ‘เสมือนตาย’ คือมีบางส่วนของปุ่มยื่นขาดหายไป จนเหลือเพียงแกนกลางซึ่งมีโปรตีนหุ้มเพียงเบาบาง ไม่อาจตรวจพบและส่งผลร้ายต่อผู้ติดเชื้อได้อีก แพทย์จึงเข้าใจว่าไวรัสถูกกำจัดไปแล้ว
กระทั่งร่างโฮสต์ที่มีไวรัสซุ่มซ่อนตัวอย่างสงบเสียชีวิต ศพของผู้ติดเชื้อบางรายมิได้ถูกฌาปน แต่กลับฝังเอาไว้ในดินตามหลักความเชื่อของศาสนา เมื่อแบคทีเรียจากศพสร้างก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ขึ้นมา ไวรัสที่ถูกอาบย้อมด้วยก๊าซดังกล่าวจึงกลายพันธุ์ กะเปาะยื่นยาวออกมามีลักษณะแหลมคล้ายหอยเม่น นักวิทยาศาสตร์จึงเรียกไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า ‘โคโรนาสไปค์’
ไวรัสร้ายแพร่สู่สิ่งมีชีวิตใต้ผิวดิน ดังเช่น หนอน แมลง ที่กัดกินซากศพ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์กินแมลงจึงได้รับไวรัส ก่อนหวนคืนสู่ร่างกายมนุษย์ที่กินสัตว์ป่าจำพวก กระรอก กระแต หรือค้างคาว
เพียงสามเดือนหลังโลกประกาศชัยชนะต่อโรคโควิด-19 กลับมีผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อโคโรนาสไปค์ในประเทศเมียนมา ก่อนแพร่กระจายลุกลามไปยังประเทศและทวีปอื่นตามลำดับ ใช้เวลาเพียงไม่นาน ไวรัสก็การกลายพันธุ์ไม่หยุด ถึงขนาดที่สามารถกระจายตัวเองอยู่ในอากาศ จนรัฐบาลทั่วโลกต้องประกาศปิดประเทศและให้ประชาชนอยู่แต่เพียงในเคหสถานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ศศินแทบกระอักความคับแค้นใจออกมาเป็นโลหิต คนที่เกิดมาบนกองเงินกองทองเช่นตน ควรใช้ชีวิตวัยหนุ่มให้คุ้มค่า ทว่ากลับต้องมาติดแหง็กอยู่ในบ้านเพราะไอ้โรคเฮงซวยนี่
เคราะห์ดีที่รัฐบาลไทยได้รับสิทธิในนวัตกรรมไครโอนิกส์จากสหรัฐอเมริกา การทดลองแช่แข็งร่างมนุษย์นี้มีต้นกำเนิดจากแนวคิดการเก็บรักษาศพให้คงสภาพเดิมเพื่อรอวันที่นวัตกรรมของโลกจะก้าวหน้าถึงขั้นสามารถคืนชีพคนตายในอนาคต และด้วยการค้นคว้าวิจัยของสถาบันไครโอนิกส์ ทำให้ปัจจุบันเทคโนโลยีการแช่แข็งมนุษย์นี้ สามารถใช้กับ ‘คนเป็น’ ได้
อเมริกาเป็นประเทศแรกที่กำหนดมาตรการลี้ภัยจากโรคโคโรนาสไปค์ ด้วยการคัดเลือกประชากรที่เหมาะสม จากการทดสอบด้วยระบบออนไลน์ทั้งด้านร่างกาย มันสมอง และศักยภาพอื่น ให้เข้าร่วมโครงการไครโอนิกส์นี้ ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีที่มีค่าใช้จ่ายแพงระยับ ไม่สามารถใช้กับประชากรทุกคนได้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกส่งตัวไปยังสถาบันที่ภายในเรียงรายด้วยตู้โลหะทรงแคปซูล และแช่แข็งร่างกายเอาไว้เพื่อรอวันตื่นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในโลกที่ไร้โรค เปรียบได้กับเรือโนอาห์ในคัมภีร์ปฐมกาล ที่อนุญาตเพียงครอบครัวของโนอาห์และสัตว์ชนิดอื่นอย่างละคู่เท่านั้นที่สามารถขึ้นเรือเพื่อเอาชีวิตรอดจากมหาอุทกภัย
และเพราะจำนวนที่ได้รับปันส่วนจากอเมริกาอย่างจำกัดจำเขี่ย กระทรวงศึกษาธิการมีงบประมาณสนับสนุนให้เพียงสถาบันการศึกษาละหนึ่งคนเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการนี้ โดยแบบทดสอบที่ใช้ประเมินยากเสียยิ่งกว่าสอบเข้า BITS เสียอีก
ตอนเรียนปีหนึ่ง ทั้งระดับมีเพียงเขาและไอ้พิธานเท่านั้น ที่ได้เกรดเฉลี่ย 4.00
แม้ภาคภูมิกับสายตาชื่นชมของทุกผู้ แต่คงมีเพียงมันผู้เดียวที่รู้ว่าผลการเรียนสูงสุดที่ได้มานั้น หาใช่ได้มาเพราะมันสมอง หากทว่าเป็นเพราะเงินหลักแสนที่โอนเข้าบัญชีอาจารย์ผู้สอนทุกวิชาต่างหาก
ศศินเผอเรอคุยโทรศัพท์เสียงดัง โพล่งความลับนี้ออกมาให้พิธานได้ยิน จนมันประกาศกร้าวว่าจะแฉผิดบาปที่เขาทำ เคราะห์ดีที่ไวรัสโคโรนาสไปค์ระบาดอย่างกะทันหันและรวดเร็วจนมหาวิทยาลัยประกาศปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนมาเป็นแบบออนไลน์ ทำให้มันไม่อาจประจานเขาได้ดั่งใจ
และถึงตอนนี้ แม้มันจะสงสัยว่ารายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์ที่เป็นเขาอาจได้มาด้วยการเล่นไม่ซื่อ แต่เมื่อไม่มีหลักฐาน อย่างไรคนที่จะได้เข้าร่วมโครงการไครโอนิกส์ก็ย่อมเป็นตนอยู่ดี
“จนก็หัดเจียมตัวซะ ไอ้กระจอก!”
ศศินระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอีกครา

สาเหตุสำคัญที่บุตรชายมหาเศรษฐีกระเหี้ยนกระหือรืออยากแช่แข็งตนเอง ทั้งที่ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าโลกจะพ้นภัยครั้งนี้ เป็นเพราะของแถมที่พ่วงมากับเทคโนโลยีไครโอนิกส์
">‘จักรวาลนฤมิต’ ที่เคยเป็นศัพท์บัญญัติให้คำ ‘Metaverse’ กลับถูกนำมาใช้เรียกโลกเสมือนที่ให้เหล่าผู้ถูกคัดเลือกได้ใช้ชีวิตระหว่างถูกแช่แข็ง
แม้อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียสจะสามารถหยุดการทำงานของร่างกายได้ถึงระดับเซลล์ แต่ห้วงคำนึงกลับไม่ถูกผูกติดตรึงกับร่างไปด้วย ตู้แช่แข็งรุ่นล่าสุดที่ได้รับการพัฒนานี้ มีเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับระบบประสาท ให้ผสานรวมระบบความจริงเสมือน (VR) ความจริงเสริม (AR) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นระบบความจริงผสมผสาน (VAA) ขึ้น
อุปกรณ์รูปร่างคล้ายหมวกกันน็อก จะวิเคราะห์ระบบประสาทและสร้างโลกเสมือนขึ้นในความฝัน ให้ผู้ที่ถูกแช่แข็งจนหลับใหล ได้ใช้ชีวิตในโลกที่ถูกสร้างขึ้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลตัวตนของบุคคลคนนั้น จนกลายเป็นโลกที่ตอบสนองความพึงพอใจของผู้ถูกคัดเลือกมากที่สุด
หลังถูกคนของรัฐบาลพาตัวมายังสถาบันไครโอนิกส์และเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งร่างกายแล้ว ทันทีที่ศศินเปิดเปลือกตา เด็กหนุ่มพลันต้องตื่นเต้นดีใจจนหันซ้ายหันขวาไม่หยุด
ราวโลกอนาคตที่เคยดูในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะบ้านเมืองที่มีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมล้ำยุค รถราที่แล่นได้เองจากการควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าและแรงโน้มถ่วง จนสามารถแล่นบนฟ้าเฉกเช่นอากาศยาน หรือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของผู้คนที่เดินไปมาก็ขับรัดทรวดทรงองค์เอวให้คนวัยหนุ่มฉกรรจ์อย่างเขาต้องกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่
เด็กสาวนางหนึ่งขยิบตาให้ เท่านี้ศศินก็เดินตัวปลิวลิ่วเข้าหา
“ดีครับ” กล่าวทักพลางยกมุมปากส่งรอยยิ้มที่พิชิตใจสาวน้อยสาวใหญ่มานักต่อนัก คนถูกเกี้ยวเองก็หาได้เขินอาย คล้ายเป็นคนพันธุ์เดียวกัน
“อยากรู้ไหม ว่าการมีเซ็กส์ในความฝัน จะทำให้นาย ‘เสร็จ’ เหมือนตอนตื่นอยู่ไหม”
เป็นศศินเองที่ต้องเลิกคิ้วกับคำถามนี้
“ไม่ลอง... จะรู้เหรอ”
เหมือนน้ำมันกับไฟ ที่เพียงเข้าใกล้ก็แผดเผาทุกสรรพสิ่ง ที่จินตนาการไว้คือความหฤหรรษ์สุดเหวี่ยง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเหนือกว่านั้นมากโข ยิ่งประกอบกับหลายปีที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปหาความสำราญกับบรรดาสาว ๆ ที่เคยจีบทิ้งจีบขว้างเอาไว้ ทันทีที่จับจูงมือกันเข้ามาในห้องสวีทของโรงแรม ศศินกับหญิงแปลกหน้าก็บรรเลงเพลงรักอย่างสุดเหวี่ยงเพื่อระบายสิ้นซึ่งปรารถนาที่ถูกกักเก็บมานานเนิ่น
“โลกจะเป็นยังไงก็ช่างแม่งมันแล้ว ให้อยู่ที่นี่ตลอดไปก็ได้”
กล่าวสลับกับสูดปากทั้งที่ร่างยังขยับเคลื่อนสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกับเด็กสาวไม่หยุด

คืนวันผันผ่านนานเท่าใดไม่เก็บมาคิดให้รกสมอง ศศินสนใจเพียงหาความสำราญให้ตนเองอย่างเต็มที่ ทั้งอาหารเลิศรส หญิงสาวไม่ซ้ำหน้า กระทั่งเหล้ายาและสิ่งเสพติดก็เสกสรรได้เพียงใจคิดจากการวิเคราะห์ของปัญญาประดิษฐ์
แก๊งเพื่อนที่ถูกสร้างขึ้นจากความคิด นั่งล้อมวงในห้องหรู ควันระเหยจากไปป์แก้วลนไฟถูกสูดเข้าปอด ส่งสายตาชายหญิงนับสิบให้เยิ้มปรือ ราวล่องลอยอยู่ในห้วงฝัน
ศศินคว้าเด็กสาวผมสั้นที่นั่งเคียงข้างบนโซฟาตัวยาวมาจูบอย่างดูดดื่ม ทั้งที่บนตักของเขาก็มีสาวอีกนางนั่งโยกย้ายส่ายสะโพกไม่หยุด
แต่พลันต้องตะโกนร้องสุดเสียง เมื่อลิ้นของเขาที่สอดเข้าไปในปาก ถูกเธอคนนั้นกัดเข้าเต็มแรง
“โอ๊ย! อีห่า ทำอะไรของมึงวะ กูไม่ได้เป็นมาโซนะ”
“หึ ๆ ๆ”
คนถูกผลักลุกขึ้นโงนเงน เหยียดยิ้มกว้างพลางจับจ้องใบหน้าของศศินไม่วางตา
หาใช่ด้วยเสน่หา ทว่ากลับคล้ายผู้ล่า... จ้องเหยื่อ
คนถือดีในเพศบุรุษยังทำใจดีสู้เสือ คิดว่าสาวเจ้าเพียงเมายา จึงปรี่เข้าหาหมายประเคนฝ่ามือใส่ใบหน้าเพื่อเรียกสติ แต่ข้อมือของตนกลับถูกฉวยคว้าด้วยมือเรียว ก่อนถูกบีบด้วยกำลังมหาศาลจนได้ยินเสียงกระดูกหักดังกร๊อบ ศศินดิ้นพล่านเป็นปลาถูกทุบหัว ไม่ทันได้ร้องครวญคราง ร่างก็ถูกล้อมด้วยเหล่าเพื่อนที่เมื่อครู่ยังตั้งวงเสพทั้งยาและนารี พวกมันมองเขาเป็นตาเดียว ปากที่เปิดอ้ามีน้ำลายไหลย้อยเป็นทาง
“ทำอะไร พวกมึงจะทำอะไร เป็นบ้าอะไรกันไปหมดแล้ววะ!”
ภาพในคลองตา ฉุกให้คิดถึงเมื่อครั้งต้องตามแม่ไปทำบุญที่วัด เขาในวัยเด็กสั่งให้พี่เลี้ยงพาไปให้อาหารปลาที่ท่าน้ำหลังวัด เพียงโยนขนมปังลงไป ปลาสวายนับร้อยก็กลุ้มรุมเข้ากัดกินขนมปัง เพียงไม่กี่วินาที จากแพใหญ่พลันหายไปไม่เหลือสักเศษเสี้ยว
เขาในตอนนี้คือขนมปังแพนั้น
เนื้อหนังแหว่งวิ่นด้วยถูกคมเขี้ยวกัดกระชาก เพิ่งคิดได้ว่าในโลกเสมือนไม่ควรเจ็บปวด แต่ความเจ็บที่รู้สึกอยู่นี้คือของจริง
ทรมาน... แต่ไม่อาจตายได้ เพราะนี่คือความฝัน ที่ไม่อนุญาตให้เขาตาย!

ลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าตนอยู่บนดาดฟ้าอาคาร ภาพอันน่าสะพรึงกลัวยังติดตรึงในมโนสำนึก ให้ขนทั่วสรรพางค์ลุกชันอย่างไม่ตั้งใจ ศศินหันมองซ้ายขวาอย่างระแวงด้วยไม่รู้ว่าเหล่ามนุษย์กินคนพวกนั้นซุ่มซ่อนตนเองอยู่ที่ใด
“หาเพื่อนอยู่เหรอ”
สะดุ้งเฮือกพลางหันขวับกลับไปด้านหลัง สองเท้าถอยกรูดจนแทบพันกันล้ม ทว่ายังประคองตัวอยู่ได้ และทั้งที่คราแรกหวาดกลัวจนตั้งใจจะวิ่งหนี แต่ทันทีที่เห็นใบหน้าของคนที่จู่ ๆ ก็ปรากฏกายขึ้นมาพร้อมเอ่ยคำทัก ศศินก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นพลางกำหมัดกัดฟันกรอด
“มึง!”
พิธานไม่ควรอยู่ตรงนี้ มันไม่ใช่ผู้ถูกคัดเลือก เขาต่างหากที่ผ่านการทดสอบและได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการไครโอนิกส์ด้วยโควตาของมหาวิทยาลัยแต่เพียงผู้เดียว
“กูไม่ควรอยู่ตรงนี้ เพราะกูไม่ใช่ผู้ถูกคัดเลือก”
ถลึงตาอย่างตระหนก เพราะอีกฝ่ายพูดในสิ่งที่ตนกำลังคิดราวถอดประโยคออกมา
“กูพูดเหมือนที่มึงคิดชนิดที่ถอดประโยคออกมาคำต่อคำ... ใช่ไหมไอ้ศิน”
“ที่นี่คือโลกของกู กูสร้างขึ้นจากเอไอ มึงควรจะเน่าตายไปในโลกข้างนอกแล้วสิวะ!”
คนถูกค่อนไม่เปลี่ยนสีหน้า ยังคงยิ้มและมองศศินด้วยแววตาแฝงความนัย
“ยินดีด้วย ในที่สุดมึงก็พูดถูกด้วยสมองของตัวเองเสียที”
“พูดเหี้ยอะไร!”
ลืมความหวาดกลัวจนสิ้น ศศินย่างสามขุมเข้าหาพิธานอย่างมุ่งร้าย ทว่าพื้นที่ยืนอยู่กลับเอียงจนการเดินเข้าหาอริคล้ายดั่งการปีนเขา ศศินตีสีหน้าตกใจ ขณะที่พิธานยืนล้วงกระเป๋าหลุบตามองผู้อยู่ต่ำกว่าตน
“ถ้าร่างกาย กูคงเน่าตายไปแล้ว เพราะตอนนี้โคโรนาสไปค์ฆ่าคนข้างนอกทุกคนตายจนหมด” พิธานหยุดคิดเพียงครู่ ก่อนส่ายหน้า “ไม่สิ... จะเหลือก็แต่พวกมึงที่อยู่ในตู้แช่แข็งนี่แหละ” “มึงเพ้ออะไร หลอนยาเหรอ ถ้าทุกคนตายห่าหมดแล้วแล้วมึงเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”
คนถูกถามระบายลมจากปากอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“มึงคิดว่าระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ของรัฐบาลไทยกับเต้าหู้ อะไรแข็งกว่ากันล่ะ”
ไม่ทันได้ตีความตามคำพูดของพิธาน พื้นที่ลาดเอียงทำมุมสูงขึ้นทีละน้อยก็กลับตาลปัตร จนพื้นดินกลับสลับด้านไปอยู่ข้างบน ส่งให้ร่างของศศินลอยละลิ่วตกลงสู่ท้องฟ้าที่อยู่เบื้องล่าง
ไร้ซึ่งสิ่งใดรองรับ
ร้องสุดเสียงด้วยหวาดกลัวเหลือประมาณ พิธานที่ยืนกลับหัวอยู่เบื้องบนนั้นแหงนหน้ามองร่างที่ลอยลับจนเหลือเพียงจุดเดียวในสายตา ก่อนกล่าวถ้อยคำที่ศศินไม่อาจได้ยิน
“แล้วเจอกัน”

บุตรชายมหาเศรษฐีตื่นขึ้นอีกครากลางพณาไพร รายล้อมด้วยกิ่งก้านใบของพรรณพฤกษ์ แสงสว่างที่ส่องลอดช่องว่างหมู่ไม้ไม่มากพอให้มองเห็นรอบบริเวณได้ชัดนัก
ราวตกในห้วงอนธการ ศศินไม่อาจเข้าใจได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับตน และพิธานที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้สูงซึ่งกำลังมองลงมาด้วยแววตาหฤหรรษ์ ก็ตั้งใจไม่อธิบายว่าอริแห่งตนกำลังโดน ‘ไวรัส’ เล่นงาน มิใช่ไวรัสอันเป็นต้นกำเนิดของโรคร้าย หากแต่เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ที่เขา... ไม่สิ ที่พิธานก่อนตายเจาะเข้าสู่ระบบเครือข่ายไครโอนิกส์ได้สำเร็จ และปล่อยไวรัสที่สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เดียว
เพื่อ ‘ฆ่า’ ศศิน
แน่นอนว่าจักรวาลนฤมิตคือโลกแห่งความฝัน ศศินย่อมไม่มีวันตายในความฝัน ดังนั้นทันทีที่ไวรัสที่ถูกสร้างให้มีรูปร่างเฉกเช่นตัวตนของพิธาน บันดาลความตายให้ศศินเมื่อใด เขาก็จะฟื้นขึ้นมาได้ใหม่เสมอ
ศศินฟื้นได้ ไวรัสก็ฆ่าเขาได้อีก
ต่อให้จะฟื้นอีกสักกี่ครั้ง ผลของไวรัสก็จะติดตามและเข่นฆ่าเขาไปทุกครั้งจนศศินต้องตกอยู่ในวังวนแห่งความตายไม่จบไม่สิ้น
ผู้ใช้อำนาจบาตรใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิขึ้นเรือโนอาห์อย่างไม่เป็นธรรม ย่อมคู่ควรกับชะตากรรมเช่นนี้ และอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า คมเขี้ยวของสัตว์ร้ายที่กระจายตัวโอบล้อมอยู่หลังปราการธรรมชาติ ก็จะฉีกกระชากร่างของศศินเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ส่งเขาเข้าสู่บ่วงมรณะอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อฟื้นขึ้นมาพบกับมรณกรรม...
อีกครั้ง
และอีกครั้ง  




ขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดภายในเว็บไซท์
Copyright by http://www.espressoandcigarette.com